ปูนแต่ละชนิดสร้างงานดีได้ไม่เหมือนกัน From Mix to Masterpiece

 

ปูนแต่ละชนิดสร้างงานดีได้ไม่เหมือนกัน: From Mix to Masterpiece

การเลือกใช้ปูนในการก่อสร้างนั้นไม่ใช่แค่การผสมผสานวัสดุเข้าไปในงาน แต่เป็นศิลปะที่มีความสำคัญต่อความแข็งแรงและความทนทานของโครงสร้าง งานที่ออกมาจึงไม่เหมือนกันกับการเลือกชนิดปูนที่เหมาะสมตามลักษณะการใช้งานและสภาพแวดล้อม ปูนแต่ละชนิดมีคุณสมบัติและความเหมาะสมที่แตกต่างกัน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อผลลัพธ์ที่ได้จากงานก่อสร้าง

1. ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ (Ordinary Portland Cement)

ปูนชนิดนี้เป็นที่รู้จักกันดีในวงการก่อสร้าง เพราะมีความแข็งแรงสูงและเหมาะสมกับการใช้งานทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการเทพื้น การผสมกับวัสดุอื่น ๆ หรือแม้แต่การก่ออิฐ ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความทนทานและมีประสิทธิภาพสูง

2. ปูนฉาบ (Plaster)

ปูนฉาบคือการใช้ปูนในการเคลือบผิวงานก่อสร้างให้นุ่มนวลและดูดี ปูนชนิดนี้มีลักษณะเป็นเนื้อที่ละเอียด มักใช้ในการปิดผิวอิฐหรือปูนที่เป็นรอยแตก เพื่อให้งานเสร็จสมบูรณ์และมีความเรียบเนียน ใช้ทั้งในงานภายในและภายนอก

3. ปูนผสมสำเร็จรูป (Ready-mix Cement)

ปูนประเภทนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะสามารถใช้งานได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาผสมเหมือนปูนชนิดอื่น ๆ ปูนผสมสำเร็จรูปมักใช้ในงานที่ต้องการประสิทธิภาพและความรวดเร็ว เช่น การเทปูนเพื่อทำฐานราก, เสา, หรือคาน

4. ปูนมอร์ตาร์ (Mortar)

ปูนมอร์ตาร์เป็นส่วนผสมของปูนซีเมนต์ ทรายละเอียด และน้ำ ใช้ในการก่อสร้างอิฐหรือหิน ซึ่งสามารถสร้างความทนทานในการยึดเกาะอิฐกับวัสดุอื่น ๆ ได้ดี นอกจากนี้ยังใช้ในการปูกระเบื้องและการฉาบผิวงานต่าง ๆ ที่ต้องการความแข็งแรงและความคงทน

5. ปูนซ่อมแซม (Repair Mortar)

ปูนซ่อมแซมจะใช้ในงานซ่อมแซมโครงสร้างเก่า เช่น การเติมเต็มรอยแตกหรือรอยชำรุด ปูนชนิดนี้มีคุณสมบัติที่ช่วยให้การซ่อมแซมสามารถเชื่อมโยงวัสดุต่าง ๆ ได้ดี สามารถใช้ซ่อมแซมทั้งงานภายในและภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

6. ปูนขาว (Lime Cement)

ปูนขาวมีคุณสมบัติในการปรับสภาพดินและปรับพื้นผิวให้มีความยืดหยุ่นสูง นิยมใช้ในการก่อสร้างโครงสร้างที่ไม่ต้องการความแข็งแรงสูงมากนัก เช่น งานที่เกี่ยวข้องกับการปรับภูมิทัศน์หรือสวน ปูนขาวมีความคงทนและทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดี

7. ปูนพิเศษ (Specialized Cement)

ปูนพิเศษอาจมีลักษณะหรือคุณสมบัติพิเศษที่เหมาะสมกับงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง หรือมีความต้องการเฉพาะ เช่น ปูนกันซึม ปูนกันไฟ หรือปูนที่มีความสามารถในการต่อต้านสารเคมีต่าง ๆ ปูนประเภทนี้จะมีราคาสูงและใช้ในงานที่ต้องการความทนทานพิเศษ

เลือกใช้ปูนให้เหมาะสมกับงาน:

การเลือกใช้ปูนให้เหมาะสมกับลักษณะของงานเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม หากเลือกใช้ปูนที่ไม่ตรงกับคุณสมบัติของงาน อาจจะทำให้งานที่ออกมามีคุณภาพต่ำและเกิดปัญหาตามมาในระยะยาว

บทสรุป
ปูนแต่ละชนิดมีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกัน จึงควรเลือกให้เหมาะสมกับประเภทงาน ไม่ว่าจะเป็นงานก่อสร้าง, ซ่อมแซม หรือแม้แต่การตกแต่งภายในและภายนอก เลือกปูนที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและความต้องการ จะทำให้งานนั้นออกมาสมบูรณ์แบบ และยั่งยืนในระยะยาว

----------------------------------------------------------------------------

รีวิวและรายละเอียดเพิ่มเติม Facebook
: หางาน รายได้ดี by PST
https://www.facebook.com/profile.php?id=100054608373504

: พี แมชโปร จำหน่ายรถปั๊มคอนกรีตเครื่องพ่นปูนฉาบพร้อมศูนย์ซ่อมที่มีมาตรฐาน
https://www.facebook.com/PSTgroup.pmp

: พี เอส ที ทรานสปอร์ต - บริการปั๊มคอนกรีตและเครื่องพ่นปูนฉาบ
https://www.facebook.com/PSTTransportandservice

: เครื่องพ่นปูนฉาบ by PST
https://www.facebook.com/PST.PlasteringMaching

: ช่างสีมืออาชีพ by PST
https://www.facebook.com/PSTCoolPaint

: รถปั๊มคอนกรีต Everdigm by PST
https://www.facebook.com/PST.EverdigmPump

: รถปั๊มคอนกรีตมือสอง by PST
https://www.facebook.com/PSTUsedPump

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การเช็ควาล์วเครื่องยนต์ 6 สูบเรียง

รูปภาพ
การเช็ควาล์วเครื่องยนต์ 6 สูบเรียง แบบเรียงลำดับการจุดระเบิดของเครื่องยนต์                 การเช็ควาล์ว คือ การปรับตั้งระยะห่างของวาล์วให้ได้ค่ามาตรฐานตามที่ผู้ผลิตกำหนดไว้ ซึ่งในการให้งานของเครื่องยนต์ย่อมมีการสึกหรอกตามระยะการใช้งานอยู่แล้ว   วาล์วไอดี-ไอเสีย ก็เช่นกัน ย่อมต้องมีการสึกหรอก   ในการเช็ควาล์ว แบบเรียงลำดับการจุดระเบิดของเครื่องยนต์ นั้นต้องรู้ถึงลำดับการจุดระเบิด โดยผู้ผลิตจะระบุไว้บริเวณฝาครอบวาล์ว โดยเครื่องยนต์แบบ 6 สูบเรียง ส่วนใหญ่โดยทั่วไป ลำดับการจุดระเบิด จะเป็น 1-5-3-6-2-4 ไอดี ไอเสีย               และที่สำคัญในการเช็ควาล์ว คือ ขนาดของฟิลเลอร์เกจ ที่จะใช้ในการปรับตั้งวาลว์ไอดี – ไอเสีย ซึ่งผู้ผลิตจะระบุไว้ในคู่มือ และ บนฝาครอบวาล์ว   โดยจะระบุ ขนาดของฟิลเลอร์เกจ ทั้ง ไอดี - ไอเสีย   เช่น ตามที่ระบุไว้ในคู่มือ ไอดี 0.2mm   ไอเสีย 0.5mm    ...
อ่านเพิ่มเติม

งานช๊อตกรีต (Shotcrete)

รูปภาพ
งานช๊อตกรีต (Shotcrete)                     Shotcrete เป็นงานพ่นมอร์ต้า หรือพ่นคอนกรีตที่ทำงานผ่านเครื่องพ่นหรือ เครื่องพ่นปูนฉาบ ด้วยแรงลมความเร็วสูง โดยการพ่นมอร์ต้า หรือ พ่นคอนกรีต ไฟยังพื้นที่ที่ต้องการ ซึ่งจะมีการเสริมเหล็กหรือไม่ก็ได้               วัสดุที่ใช้ในงาน Shotcrete ปัจจุบัน มีทั้งการสั่งคอนกรีตผสมเสร็จ หรือมอร์ต้าผสมเสร็จ มากับรถโม่ปูน เป็นการผสมสำเร็จแบบเปียกจากโรงงาน ซึ่งอาจใส่หินเกล็ด เป็นมวลคละหยาบก็ได้ หรือ วัสดุแห้งที่ต้องผสมเอง อันประกอบด้วย ปูนซิเมนต์ ,ปอซโซลาน (Pozzolan) ซึ่งคือ วัสดุที่มีองค์ประกอบทางเคมีประกอบไปด้วย ซิลิกา และอลูมินา อยู่ในปริมาณสูง เมื่อบดเป็นผงละเอียด จะมีความสามารถทำปฎิกริยากับแคลเซียมไฮดรอกไซด์ ที่อุณหภูมิปกติและเมื่อมีความชื้นแล้วเกิดเป็นสารประกอบซึ่งมีคุณสมบัติในการยึดประสาน ผสมกับมวลคละหยาบหรือมวลคละละเอียด โดยขนาดของ มวลคละนี้จะเป็นตัวกำหนดว่า การพ่นจะใช้หัวพ่น(Nozzle) ขนาดเท่าใด...
อ่านเพิ่มเติม

การทำงานของระบบคลัตช์รถบรรทุก, รถปั๊มคอนกรีต

รูปภาพ
การทำงานของระบบคลัตช์รถบรรทุก, รถปั๊มคอนกรีต          คลัตช์ (Clutch) ทำหน้าที่ตัดต่อกำลังของเครื่องยนต์ที่จะส่งมาสู่ชุดเกียร์ ภายในตัวรถบรรทุก, รถปั๊มคอนกรีต ส่วนประกอบสำคัญในระบบคลัตช์   ประกอบด้วย          1.ฟลายวีล (Fly wheel) ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการถ่ายทอดกำลังจากเครื่องยนต์ มาสู่ชุดกลไกขับเคลื่อน ภายในตัวรถบรรทุก, รถปั๊มคอนกรีต          จากรูปนั่นก็คือ ฟลายวีล หรือ ล้อช่วยแรง โดยฟลายวีลจะรับพลังงานมาจากเครื่องยนต์โดยตรงก่อนที่จะส่งผ่านมายังแผ่นคลัตช์  เพื่อที่จะให้มันส่งกำลังไปสู่ชุดเกียร์อีกทีหนึ่งด้วย          2.แผ่นคลัตช์ (Clutch disc)   ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการถ่ายถอดกำลังที่ได้จากฟลายวีล  มาสู่ชุดเกียร์ ภายในตัวรถบรรทุก, รถปั๊มคอนกรีต          โดยแผ่นคลัตช์ จะถูกกดติดกับฟลายวีลและจะหมุนตามฟลายวีลในจังหวะการส่งกำลังปกติ  ในจังหวะที่แผ่...
อ่านเพิ่มเติม