คอนกรีตเสริมแรงหรือคอนกรีตเสริมเหล็ก
คอนกรีตเสริมแรง (reinforced concrete หรือ ferro concrete) คือ คอนกรีตที่มีการเพิ่มสมรรถภาพการรับน้ำหนัก โดยการใช้วัสดุอื่นเข้ามาช่วย เช่น เหล็ก หรือ ไฟเบอร์ หรือในบางครั้งใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้ไผ่ เพื่อเพิ่มความสามารถที่ขาดไปของคอนกรีต คือความเปราะ คอนกรีตเสริมแรงนิยมเรียกว่า คอนกรีตเสริมเหล็ก (คสล.) เนื่องจากเหล็กเป็นวัสดุที่นิยมนำมาใช้ในการเสริมแรง เพราะมีความแข็งแรง และทนทาน อาจจะมีการเกิดสนิมบ้าง
แต่ก็ถือว่าเป็นวัสดุที่ดีที่สุดสำหรับการเสริมแรงในคอนกรีต ในคอนกรีตเสริมแรง มีส่วนประกอบสองคำ คือ
1. คอนกรีต คือส่วนหลักที่ใช้ในการกก่อสร้าง
2.การเสริมแรง คือ การเพิ่มประสิทธิภาพของคอนกรีต ไม่ว่าจะเสริมด้วยเหล็ก,เส้นใยไฟเบอร์,สตีลไฟเบอร์, ไม้ไผ่ เป็นต้น
“reinforced concrete” or “ferro concrete” คืออะไร
คอนกรีตเสริมแรง คือ การเพิ่มกำลังให้คอนกรีตโดยการเสริมวัสดุที่มีคุณสมบัติรับแรงดึงมารวมอยู่ในคอนกรีต เนื่องจากคอนกรีตนั้นรับได้เพียงแรงอัดอย่างเดียวเท่านั้น เรียกการรวมของวัสดุนี้ว่า
“reinforced concrete” การใช้งานคอนกรีตเสริมแรงเกิดเริ่มขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 โดยมักจะมีการกล่าวถึง สวนฝรั่งเศสชื่อ Monier สร้างในปี พ.ศ. 2403 (ค.ศ. 1860) ภายหลังจากความสำเร็จของระบบคอนกรีตเสริมแรง ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 20 ได้มีการคิดระบบที่เรียก คอนกรีตอัดแรง (prestressed concrete)
คุณสมบัติของคอนกรีตเสริมแรง
เนื่องจากคอนกรีตสามารถรับแรงอัดได้สูงขณะที่ความสามารถในการรับแรงดึงต่ำ เมื่อถูกแรงดึงจะทำให้คอนกรีตเปราะแตกได้ง่าย ด้วยสาเหตุนี้ ระบบคอนกรีตเสริมแรงจึงถูกนำมาใช้ โดยการนำวัสดุอื่นที่สามารถรับแรงดึงได้ เช่นเหล็ก มาใส่ไว้ภายในคอนกรีตเพื่อเพิ่มความสามารถในการรับแรง โดยอาจกล่าวได้ว่า คอนกรีตรับแรงอัด และเหล็กรับแรงดึง ถึงแม้ว่าในช่วงแรกหลังจากที่คอนกรีตเริ่มแข็งตัว คอนกรีตและเหล็กจะร่วมกันรับแรงดึงจนถึงสถาวะที่คอนกรีตไม่สามารถรับแรงดึงได้
การทำงานหลักของคอนกรีตเสริมแรงคือ
1.คอนกรีตรับแรงอัด และแรงบด
2.เหล็กรับแรงดึง เมื่อทั้งสองอย่างนี้ ทำงานร่วมกัน เรียกว่าคอนกรีตเสริมแรง และทำให้สิ่งก่อสร้างมีความแข็งแรง ทนทาน รับแรงและน้ำหนักได้มากยิ่งขึ้น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น