ระบบกันซึม
ระบบกันซึม
การทำระบบกันซึม
ปัจจุบันมีหลากหลายวิธีการและมีข้อดีข้อเสียต่างกัน โดย การทำงานระบบกันซึม
มีการทำงาน ได้ 4 วิธี คือ
2. กันซึมประเภท
ทา เคลือบ พ่น ฉาบ ลงบนพื้นผิว ให้เป็นชั้นกันซึม
3. กันซึมประเภทแผ่นสำเร็จรูปปูเคลือบลงบนพื้นผิว
ให้เป็นชั้นกันซึม
การทำกันซึมผู้ใช้ต้องพิจารณาถึง งบประมาณ
และข้อดี ข้อเสียของแต่ละวิธีในการทำ
2. Cementious
Waterproofing คือ กันซึม ชนิดมีปูนซิเมนต์เป็นวัสดุพื้นฐาน ใช้ทาหรือฉาบลงบนผิวคอนกรีต
หรือผิวมอร์ต้า ผิวที่ทาจะเป็นชั้นผิวหน้าป้องกันการรั่วซึม แบ่งเป็น 2 ชนิดย่อย
คือ
2.1 ชนิดส่วนผสมเดี่ยว จะเป็น ผงซิเมนต์กันซึม
นำมาผสนกับน้ำตามอัตราส่วนที่ผู้ผลิตกำหนด เมื่อทาผิวจะได้ผิวหน้ากันซึมที่แข็ง
มีราคาประหยัด แต่ไม่มีความยืดหยุ่น
2.2 ชนิด 2 ส่วนผสม จะเป็น ผงซิเมนต์กันซึม และน้ำยากันซึมพร้อมเพิ่มความยืดหยุ่น
ทำให้ผิวที่ได้สามารถยืดหยุ่นได้
3 Crystallization
Waterproofing มีทั้งชนิดน้ำและชนิดผง โดยใช้เติมลงไปในคอนกรีต
หรือมอร์ต้า จากนั้นจะเกิดปฏิกริยาเคมี กับ free limeในเนื้อคอนกรีต ทำให้เกิดการตกผลึกคริสตัลในเนื้อคอนกรีต หรือ มอร์ต้า
อุดช่องว่างรูพรุน และมีความทึบน้ำมากขึ้น
สามารถป้องกันการรั่วซึมได้ พื้นที่ที่เหมาะกับวัสดุประเภทนี้คือบริเวณชั้นใต้ดินเช่นผนังกั้นดินและพื้นชั้นใต้ดิน
เมื่อเนื้อคอนกรีตมีความชื้นรั่วซึมแต่ไม่ควรใช้กับพื้นดาดฟ้าที่บริเวณใต้พื้นที่มีการตกแต่งภายใน
เพราะว่าหากพื้นมีรอยแตกแล้วก่อนที่จะทำปฏิกิริยาเกิดเป็นผลึกได้นั้นต้องอาศัยระยะเวลาหนึ่งในการก่อตัวเป็นผลึกทึบน้ำอาจทำให้มีน้ำรั่วลงสู่ชั้นล่างได้
4 Membrane
Waterproofing เป็นสารประกอบ Bituminous ,HDPE ,PVC มี 2 ชนิด ได้แก่
4.1 ชนิดเป็นของเหลว
หรือ Liquid
Membrane ใช้ทาเพื่อสร้างชั้นฟิล์ม
โดยความหนาที่ได้ขึ้นอยู่กับอัตราการทา สามารถสร้างชี้นฟิล์มหนาบางได้ตามต้องการ
และมีสีให้เลือกตามความต้องการ
4.2 ชนิดแผ่น
หรือ Sheet
Membrane แกนกลางเสริมแผ่นเสริมแรง ใช้ปูลงบนพื้นผิว
มีทั้งแบบกาวติดในตัว หรือเป่าไฟเพื่อให้เนื้อกาว
หรือเนื้อเมมเบรนละลายติดกับผิวงาน
5 Polyurethane
Membrane เป็นโพลิเมอร์ชนิดหนึ่งเกิดจากการผสมระหว่าง Isocyanate + polyol (หรือที่เรียกว่าPart A+ B) ผสมแบบ 1:1 ส่วน กลายเป็น Polyurethane Foam จากนั้นนำมาฉีดและรอแห้งเพื่อเคลือบพื้นผิวดาดฟ้า
การกันซึมขึ้นอยู่กับความหนาของ PU โดยปกติจะทำหนา 1-10 มม. พื้นที่ๆเหมาะกับวัสดุ
ประเภทนี้คือพื้นดาดฟ้าระเบียงที่ไม่มีน้ำท่วมขังตลอดเวลาโดยตัวคุณสมบัติของ PU จะทนความร้อนได้ดีและสามารถทาสีอะคริลิคหรือสีสะท้อนแสงทับได้
เพื่อสะท้อนรังสียูวี
6 Acrylic Membrane วัสดุกันซึมประเภทอะคริลิค พื้นที่ที่เหมาะกับวัสดุประเภทนี้ได้แก่
ชั้นดาดฟ้าระเบียงพื้นต่างๆที่ไม่มีน้ำขัง และหากเสริม Fiberglass ก็จะทำให้มีความหนาเพิ่มมากขึ้นนอกจากจะกันรั่วซึมได้แล้วยังสามารถลดความร้อนลงสู่พื้นชั้นล่างได้ในระดับหนึ่ง
ข้อดีของวัสดุประเภทนี้คือใช้งานง่าย
7 Polyester ,Polymer Membrane ใช้ทาหรือพ่น
สารประกอบโพลีเอสเตอร์ โพลีเมอร์ แทรกซึมเข้าไปในเนื้อให้ทั่วพื้นผิวบริเวณที่ทำกันซึม
การใช้เครื่องพ่นในระบบกันซึม แบ่งเป็น 3 ระบบ
คือ
1 ระบบ
Airless
Spray
เครื่องพ่นระบบนี้
พ่นกันซึมโดยการสร้างแรงดันในเนื้อแมททีเรียล และพ่นผ่านสายแรงดัน
ไปที่หัวทิปปลายปืนจนเกิดการแตกตัวของแมททีเรียลเป็นละออง
ข้อดีคือสามารถพ่นได้เร็วและได้พื้นที่มากแต่
ไม่สามารถพ่นได้กรณีที่แมททีเรียลไม่เป็นเนื้อเดียว แรงดันที่ได้จากการพ่น
ทำให้ถึง 200-230 บาร์ ทำให้ละอองพ่นมีการแตกตัวเล็กมาก เช่น เครื่องพ่นรุ่น Graco
Mark V ,เครื่องพ่นรุ่น Graco Mark X , เครื่องพ่นรุ่น
EverSpray V เป็นต้น
2ระบบ
สกรูปั๊ม
เครื่องพ่นระบบนี้
พ่นโดยใช้การสร้างแรงดันจากชุด Rotor&Stator ซึ่งเป็นสกรูรีดแมททีเรียลผ่านยาง
ทำให้เกิดแรงดัน โดยแรงดันที่ได้จะเป็นแรงดัน ตั้งแต่ 10-30 บาร์
และหากต้องการพ่นให้เกิดละอองฝอยต้องทำงานร่วมกับปั๊มลม
ละอองพ่นที่ได้จะมีเม็ดใหญ่ เช่น เครื่องพ่น IMER Step120 ,IMER Small50 เป็นต้น
3 ระบบ
Injection
หรือ ไดอะแฟรมปั๊ม
การทำกันซึมโดยต้องการอัดแมททีเรียลเข้าไปยังช่องรอยแตก
ในพื้นหรือผนังต้องการ เครื่องพ่นที่ดันแมททีเรียลเข้าไปในช่องแคบๆ ผ่านหัว Packing
โดยต้องการดันด้วยแรงดันต่ำไปจนถึงสูงแต่มีแรงดันคงที่ เช่น
เครื่องพ่น WAGNER SF23i
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น