6 ปูนยอดนิยม และ วิธีใช้ให้เหมาะสมกับงานก่อสร้าง

 


ปูน มาตรฐาน ถูกออกแบบให้มีกำลังอัดตั้งแต่ 180-400 กก./ตร.ซม. โดยทั่วไปแล้ว กำลังอัดของคอนกรีต จะพัฒนาได้อย่างสมบูรณ์ ต้องใช้เวลา 28 วัน นับตั้งแต่ผลิตเหมาะสำหรับการนำไปใช้ในโครงสร้างทั่วไป เมื่อเราเลือกคอนกรีตผสมเสร็จ ก็จะลดปัญหาโครงสร้างที่เกิดจาก ส่วนผสมที่ไม่แน่นอนและมีกำลังอัดที่ไม่ได้มาตรฐาน จากการผสมเอง เหมาะสำหรับงานโครงสร้างทุกประเภท เช่น ฐานราก เสา คาน พื้น มีกำลังอัดให้เลือกตามการใช้งาน ได้แก่ กำลังอัด 240 KSC เหมาะสำหรับงานพื้นภายใน , กำลังอัด 280 KSC เหมาะสำหรับงานพื้นภายนอก และ กำลังอัด 350 KSC เหมาะสำหรับงานพื้นที่ต้องการขัดมัน

โดยแต่ละแบบก็จะมีวิธีการใช้ที่แตกต่างกัน เพื่อให้เหมาะสมกับงานก่อสร้างวันนี้เราเลยรวบรวมการใช้ประเภทต่าง ๆ เพื่อให้เลือกใช้กันได้อย่างถูกวิธี

1.       ปูน สำหรับเทพื้นหน้าบ้าน

จะเทพื้นหน้าบ้านด้วยคอนกรีตควรเป็นคอนกรีตสำหรับงานโครงสร้างทั่วไป ซึ่งสามารถใช้คอนกรีตแบบมาตรฐานทั่วไป เป็นคอนกรีตที่มีการออกแบบค่ายุบตัวที่ 7.5+/-2.5 มีค่ากำลังอัด (Strength) ให้เลือกตั้งแต่ 180 KSC ถึง 400 KSC (cube) มีส่วนผสมสำคัญคือ ปูนซีเมนต์ มวลรวมหยาบ(หิน) มวลรวมละเอียด(ทราย) น้ำยาหน่วงคอนกรีต และน้ำ

โดยจะแนะนำกำลังอัดคอนกรีตที่ควรจะใช้สำหรับพื้นที่ต่าง ๆ ได้แก่

2.       เทพื้นเพื่อปกคลุมหญ้ารก

หรือเพื่อสร้างภูมิทัศน์ที่สวยงาม ไม่มีการรับน้ำหนัก แนะนำให้ใช้คอนกรีตกำลังอัด (KSC) 180 Cube/140 Cylinder

3.       เทพื้นสำหรับคนเดิน

ไม่มีการรับน้ำหนักรถ และเทลงบนพื้นดินเดิม แนะนำให้ใช้คอนกรีตกำลังอัด (KSC) 210 Cube/180 Cylinder

4.       เทพื้นสำหรับรถเก๋ง รถกระบะ

ทำให้สามารถจอดได้ และเทลงบนดินเดิม แนะนำให้ใช้คอนกรีตกำลังอัด (KSC) 240 Cube/210 Cylinder 

5.       เทพื้นสำหรับรองรับรถตั้งแต่ 6 ล้อ ขึ้นไป

ไม่ว่าจะเป็น รถบรรทุก รถกระบะบรรทุกของ แนะนำให้ใช้คอนกรีตกำลังอัด (KSC) 280 Cube/240 Cylinder ขึ้นไป

6.       คอนกรีต สำหรับโครงสร้าง

หากเทโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก สำหรับพื้นโครงสร้าง คานโครงสร้าง เสาโครงสร้าง ฐานราก แนะนำคอนกรีตสำหรับงานโครงสร้างทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นคอนกรีตมาตรฐานคอนกรีตไหลลื่นเทง่าย เป็นคอนกรีตที่มีการออกแบบค่ายุบตัวที่ 7.5+/-2.5 มีค่ากำลังอัด (Strength) ให้เลือกตั้งแต่ 180 KSC ถึง 420 KSC (cube) มีส่วนผสมสำคัญคือ ปูนซีเมนต์ มวลรวมหยาบ(หิน) มวลรวมละเอียด(ทราย) น้ำยาหน่วงคอนกรีต และน้ำ

โดยจะแนะนำกำลังอัดของคอนกรีตที่ควรจะใช้สำหรับพื้นที่ต่าง ๆ ได้แก่

·         พื้นคอนกรีตเสริมเหล็กแบบหล่อใน

 แนะนำให้ใช้คอนกรีตกำลังอัด (KSC) 240 Cube/210 Cylinder ขึ้นไป และความหนาพื้นไม่ต่ำกว่า 10 เซนติเมตร 

·         คานคอนกรีตเสริมเหล็ก

แนะนำให้ใช้คอนกรีตกำลังอัด (KSC) 240 Cube/210 Cylinder ขึ้นไป  

·         เสาคอนกรีตเสริมเหล็ก

แนะนำให้ใช้คอนกรีตกำลังอัด (KSC) 280 Cube/240 Cylinder ขึ้นไป โดยกำลังอัดต่าง ๆ ก็ขึ้นอยู่กับวิศวกรที่ออกแบบในการคำนวณ เช่นกัน

·         คอนกรีต สำหรับเทเสาเข็มเจาะ

จะเทเสาเข็มเจาะ ไม่ว่าจะเป็นเข็มเจาะเล็กหรือใหญ่ ก็จะมีคอนกรีตสำหรับงานเข็มเจาะ เป็นคอนกรีตผสมเสร็จที่ใช้ในการเทเข็มเจาะโดยเฉพาะ เนื่องจากถูกออกแบบให้มีความลื่นไหลสูง เพื่อให้คอนกรีตไหลเข้าหลุมได้ง่ายและไม่เกิดช่องว่างในตัวของเสาเข็ม

คอนกรีตสำหรับเข็มเจาะนั้น มีระยะเวลาก่อตัวนานกว่าคอนกรีตทั่วไป โดยผสมน้ำยาหน่วงเพื่อให้มีเวลาเพียงพอในการทำงาน มีทั้งเข็มเจาะเล็กและใหญ่ โดยเข็มเจาะใหญ่คือเข็มเจาะที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่าหรือเท่ากับ 60 ซม. มีการออกแบบค่ายุบตัวสูงถึง 15.0-20.0 ซม. และเข็มเจาะขนาดเล็กมีขนาดเล็กกว่า 60 ซม. มีการออกแบบค่ายุบตัวอยู่ที่ 7.5 - 12.5 ซม. โดยการเลือกกำลังอัดนั้นขึ้นอยู่กับวิศวกรผู้ออกแบบหน้างานในการเลือกใช้งาน

7.       คอนกรีต สำหรับ เทสระว่ายน้ำ เทดาดฟ้า

หากต้องการเทสระว่ายน้ำ ดาดฟ้า หรือสิ่งปลูกสร้างกันน้ำต่างๆ แนะนำคอนกรีตกันซึม เพราะเป็นคอนกรีตผสมเสร็จที่ออกแบบมาให้มีความทึบน้ำเป็นพิเศษ ที่วิจัยและพัฒนาขึ้นเพื่อให้มีคุณสมบัติกันซึมอย่างแท้จริง โดยไม่ต้องใส่น้ำยากันซึมเพิ่มที่หน้างาน และมีความทึบน้ำสูง โดยได้รับการออกแบบให้ถูกต้องตามข้อกำหนดมาตรฐานวัสดุและการก่อสร้าง สำหรับโครงสร้างคอนกรีต (วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย) จึงเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับโครงสร้างที่สัมผัสน้ำ หรือความชื้นตลอดเวลา โดยกำลังอัดที่แนะนำ ให้ขึ้นอยู่กับวิศวกรผู้ออกแบบ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การเช็ควาล์วเครื่องยนต์ 6 สูบเรียง

งานช๊อตกรีต (Shotcrete)

ระบบผนังหล่อในที่ โดยใช้แบบ อลูมิเนียมฟอร์มเวิร์ค