ปูนมีกี่ประเภท

 


 

อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าปูนซีเมนต์นั้นมีอยู่หลายประเภท โดยสามารถจำแนกตามการใช้งานได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ ดังนี้



·            -ปูนซีเมนต์สำหรับงานโครงสร้าง เป็นปูนสำหรับใช้ในโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก เช่น เสา คาน ฐานราก แบ่งออกเป็น ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ประเภทที่ 1 - 5 ตามมาตรฐานมอก. โดยปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ประเภทที่ 1 จะได้รับความนิยมในการก่อสร้างทั่ว ไป เช่น บ้าน อาคารสูง ถนน เป็นต้น



·           - ปูนซีเมนต์สำหรับงานก่อ งานฉาบ เป็นปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ที่นำมาผสมเข้ากับทรายหรือหินปูนบดละเอียด ในอัตราส่วน 1:4 เน้นการยึดเกาะกับพื้นผิวอิฐและผนังได้ดี ไม่หดตัวมาก เนื้อลื่น เหมาะสำหรับงานก่อและงานฉาบผนัง



·           - ปูนซีเมนต์สำหรับงานพิเศษ เป็นปูนซีเมนต์ที่ออกแบบมาเฉพาะตามการใช้งาน ปูนซีเมนต์ประเภทนี้จะมีเนื้อละเอียด สีขาว มีกำลังการยึดเกาะสูง ส่วนใหญ่แล้วงานที่ใช้ปูนประเภทนี้จะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการตกแต่งพื้นผิว เช่น งานเทอร์ราซโซ (Terrazzo) งานกรวดล้าง (Pebble Washed) เป็นต้น

วิธีการเลือกปูนโครงสร้าง

ปูนซีเมนต์เป็นวัสดุที่มีความเกี่ยวข้องกับความแข็งแรงของอาคาร ปูนที่ใช้ในการก่อสร้างจึงต้องเป็นปูนที่มีประสิทธิภาพสูง โดยวิธีการเลือกปูนซีเมนต์สำหรับงานโครงสร้าง มีข้อควรพิจารณา ดังนี้

1.เลือกประเภทของปูนให้เหมาะกับลักษณะการใช้งาน




   จากที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่าปูนซีเมนต์มีให้เลือกตามการใช้งาน 3 ประเภทใหญ่ หากต้องการปูนซีเมนต์สำหรับงานฐานราก เสา คาน คุณควรเลือกใช้ปูนซีเมนต์สำหรับโครงสร้างโดยเฉพาะ เพราะปูนซีเมนต์ประเภทนี้จะถูกออกแบบมาให้รับน้ำหนักได้ดี หากเลือกใช้งานผิดประเภท เช่น การนำปูนก่อไปใช้กับงานโครงสร้าง จะทำให้โครงสร้างไม่แข็งแรงและรับน้ำหนักได้ไม่ดีพอ หรือการนำปูนโครงสร้างไปฉาบผนัง จะทำให้ผนังไม่เรียบและแตกร้าวได้ ที่สำคัญคือ การเลือกปูนให้ตรงกับการใช้งานยังช่วยให้อาคารมีความมั่นคงแข็งแรง ปลอดภัยสำหรับผู้ใช้อาคารอีกด้วย

 


2.เลือกปูนโครงสร้างจากลักษณะของพื้นที่ก่อสร้าง


   นอกจากเรื่องของการใช้งานแล้ว ลักษณะของพื้นที่ก่อสร้างก็เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึง โดยทั่วไปแล้ว ในการก่อสร้างทั่วไปจะใช้ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ประเภทที่ 1 เป็นหลักสำหรับอาคารทั่วไป แต่ถ้าหากพื้นที่ก่อสร้างอยู่ใกล้ทะเล มีโอกาสที่จะสัมผัสกับน้ำเค็มระดับปานกลาง คุณควรเลือกใช้ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ประเภทที่ 2 หรือ 5 เพราะเป็นปูนซีเมนต์ที่มีคุณสมบัติทนต่อซัลเฟตและความเป็นด่างได้ ปูนประเภทนี้จะป้องกันเนื้อคอนกรีตจากการกัดกร่อนของซัลเฟตได้

    สำหรับโครงการขนาดใหญ่ การเข้าถึงพื้นที่ก่อสร้างยังมีผลต่อรูปแบบการขนส่งปูนอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพื้นที่ก่อสร้างอยู่ในซอยที่เข้าถึงได้เฉพาะรถขนาดเล็ก จะส่งผลต่อจำนวนเที่ยวในการขนส่งปูนและราคาที่เพิ่มสูงขึ้นกว่าการใช้รถขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นต้นทุนที่ผู้ก่อสร้างจะต้องคำนวณและประเมินต้นทุนให้ดีด้วย

 

3.เลือกแบรนด์ปูนโครงสร้างที่ได้รับรองมาตรฐานการผลิต




   เนื่องจากปูนโครงสร้างเป็นวัสดุที่ส่งผลต่อความแข็งแรงของตัวบ้านและความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยในระยะยาว นอกจากการเลือกใช้ปูนโครงสร้างให้ตรงกับประเภทแล้ว จึงควรเลือกแบรนด์ที่มีการผลิตตามมาตรฐาน โดยทั่วไปปูนซีเมนต์จะได้รับมาตรฐาน มอก. ของไทยและ ASTM ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงว่าปูนซีเมนต์ผ่านการทดสอบคุณสมบัติและประสิทธิภาพ นอกจากนี้ หากเป็นอาคารขนาดใหญ่ที่ต้องการผ่านมาตรฐาน LEED หรือมาตรฐานอาคารเขียว อาจจะเลือกใช้ปูนซีเมนต์ที่มีนวัตกรรมลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้ปูนประเภทนี้มีส่วนช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อนที่เกิดจากงานก่อสร้างได้อีกด้วย

ที่มา https://my-best.in.th/



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การเช็ควาล์วเครื่องยนต์ 6 สูบเรียง

งานช๊อตกรีต (Shotcrete)

ระบบผนังหล่อในที่ โดยใช้แบบ อลูมิเนียมฟอร์มเวิร์ค