10 ลำดับขั้นตอนการก่อสร้างบ้าน
10 ลำดับขั้นตอนการก่อสร้างบ้าน
ลำดับขั้นตอนการก่อสร้างบ้านนั้นเกี่ยวข้องโดยตรงกับสัญญาว่าจ้าง
เพราะมีลำดับงวดงานควบคู่กับการจ่ายเงิน ดังนั้น
เจ้าของบ้านที่จ้างผู้รับเหมามาสร้างบ้านเองจึงควรทำความเข้าใจลำดับขั้นตอนการก่อสร้างบ้านเอาไว้
เพื่อเป็นการตรวจสอบการทำงานในเบื้องต้น และหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
รวมถึงเตรียมงบประมาณให้พร้อมในแต่ละงวดงาน
10 ลำดับขั้นตอนการก่อสร้างบ้านที่เจ้าของบ้านทุกคนควรทราบ มีดังนี้
1. เตรียมพื้นที่
สำหรับงานเตรียมพื้นที่
จะครอบคลุมอยู่หลายเรื่อง ตั้งแต่ระดับพื้นบ้านที่ต้องพิจารณา
อาจต้องถมที่ดินเพื่อปรับระดับ ให้เหมาะสม ซึ่งโดยทั่วไปจะถมให้สูงกว่าระดับถนน
50-80 ซม. และควรสูงกว่าท่อระบายน้ำสาธารณะ
ส่วนระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการถมดินอยู่ในช่วงหน้าแล้ง (ช่วงเดือนธันวาคม –
พฤษภาคม) เพราะสามารถทำงานได้สะดวก ได้ดินที่แน่นและมีคุณภาพ
เพราะหากถมในช่วงหน้าฝนอาจเกิดเหตุการณ์ดินไหลได้
2. งานวางผังอาคาร
เมื่อเตรียมพื้นที่เรียบร้อย
จะเริ่มวางผังแนวอาคารซึ่งเป็นการกำหนดตำแหน่งของเสาเข็มโดยอ้างอิงจากแบบ
เพื่อให้ทุกฝ่ายทั้งเจ้าของบ้าน ผู้ออกแบบ วิศวกร บริษัทรับเหมาก่อสร้าง
และบริษัทรับเหมางานเสาเข็มมีความเข้าใจที่ตรงกัน ในขั้นตอนนี้
อาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือปรับระยะต่างๆ
ให้เหมาะสมได้เนื่องจากอาจพบอุปสรรคที่หน้างาน เช่น แนวต้นไม้ใหญ่
แนวเสาเข็มโครงสร้างอาคารเดิม
หรือตำแหน่งอาคารข้างเคียงที่มีผลต่อพื้นที่ใช้สอยอาคาร เป็นต้น
โดยผู้รับเหมาจะนำเสนอแนวทางแก้ไขให้ผู้ออกแบบเซ็นชื่อรับรอง
เพื่อดำเนินการก่อสร้างต่อไป
3. งานเสาเข็ม
สำหรับงานเสาเข็มมักจะจ้างบริษัทรับเหมางานเสาเข็มโดยเฉพาะ
ซึ่งทางผู้ออกแบบจะสำรวจหน้างานและกำหนดมาแล้วว่าบ้านแต่ละหลังเหมาะจะใช้เสาเข็มประเภทใด
ไม่ว่าจะเป็นเสาเข็มตอกหรือเสาเข็มเจาะ (อ่านรายละเอียด Material Guide ทรุดไม่ทรุด
จุดเริ่มต้นอยู่ที่เสาเข็ม)
การตรวจสอบคุณภาพเสาเข็มต้องทดสอบความแข็งแรง (Load
Test) สามารถรับน้ำหนักได้ตามมาตรฐาน ไม่เยื้องศูนย์
แต่หากเกิดความผิดพลาดหรืออุปสรรคในการตอกหรือเจาะเสาเข็ม
ผู้ออกแบบอาจต้องแก้ไขแบบเพื่อให้เสาเข็มและฐานรากดังกล่าวสามารถรับน้ำหนักได้
นอกจากนี้สำหรับการตัดหัวเสาเข็มเพื่อเตรียมหล่อฐานราก ผู้รับเหมางานเสาเข็ม
และผู้รับเหมาหลักต้องยืนยันระดับฐานรากให้ตรงกันก่อนส่งต่องาน
4. งานฐานรากโครงสร้างชั้นล่าง
เมื่อตัดหัวเสาเข็มแล้ว
ผู้รับเหมาหลักจะเริ่มงานส่วนโครงสร้างฐานราก ซึ่งประกอบด้วยฐานรากและเสาตอม่อ
จากนั้นจึงขึ้นโครงสร้างชั้น 1 ซึ่งประกอบด้วย คานคอดิน เสา คาน และพื้นชั้นล่าง
โดยอาจอาจเลือกเป็นพื้นหล่อในที่ (พื้นห้องน้ำ) ร่วมกับพื้นคอนกรีตสำเร็จรูป
หากโครงสร้างต่างๆ เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก
ควรมีขนาดและค่ากำลังอัด ตามที่วิศวกรได้คำนวณไว้ ซึ่งต้องใช้เวลาในการบ่มคอนกรีต
และถอดแบบค้ำยัน ช่วงระยะเวลาหนึ่ง (ประมาณ 14-28 วัน
ขึ้นอยู่กับลักษณะงานและประเภทปูน) เพื่อให้โครงสร้างมีความแข็งแรง
พร้อมรับน้ำหนักโครงสร้างอื่นๆ ต่อไป แต่ในกรณีที่สร้างบ้านโครงสร้างเหล็ก
ก็จะเริ่มนำชิ้นส่วนเหล็กในแต่ละส่วนมาเชื่อมกันทั้งในส่วน เสา คาน ตง เป็นต้น
ในระหว่างขั้นตอนนี้
จะมีการขุดดินเพื่อวางระบบสุขาภิบาล เช่น บ่อพัก
Manhole ระบบท่อน้ำทิ้ง ท่อประปา เป็นต้น
ซึ่งเจ้าของบ้านควรถ่ายรูปและจดบันทึกตำแหน่งและระยะงานระบบเอาไว้เพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงหากมีการซ่อมแซมในอนาคต
5. งานโครงสร้างชั้นสอง โครงหลังคา
และโครงสร้างงานระบบสุขาภิบาล
งานโครงสร้างชั้นสองก็ทำเช่นเดียวกับโครงสร้างชั้นล่าง
ทั้งเสา คาน อเส (คานหลังคา) และอาจมีงานหล่อชิ้นส่วนตกแต่ง เช่น บัว กันสาด
ขอบปูน
ซึ่งโครงสร้างแต่ละส่วนจะต้องใช้ระยะเวลาบ่มคอนกรีตเช่นเดียวกับโครงสร้างชั้นล่าง
นอกจากนี้จะเริ่มขึ้นโครงหลังคา ซึ่งมีหลายประเภท เช่น โครงหลังคาเหล็ก
หรือโครงหลังคาสำเร็จรูป เป็นต้น
ในส่วนของงานระบบประปาและสุขาภิบาลทั้งถังเก็บน้ำใต้ดิน
ท่อน้ำทิ้ง
และถังบำบัดจะถูกติดตั้งในช่วงนี้โดยสมบูรณ์เพื่อเตรียมการเดินท่อเข้าภายในบ้าน
6. งานมุงหลังคา และโครงสร้างบันได
เมื่องานโครงสร้างหลักเสร็จเรียบร้อย
จะเริ่มติดตั้งวัสดุมุงหลังคาเพื่อให้ภายในบ้านมีร่มเงาและลดอุปสรรคจากลมฟ้าอากาศในการทำงาน
ในช่วงนี้จะเริ่มหล่อโครงสร้างบันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก
หรือติดตั้งบันไดเหล็กตามที่แบบระบุ
นอกจากนี้อาจเก็บงานโครงสร้างในส่วนอื่นๆ
ให้พร้อมก่อนเริ่มงานก่อผนังและติดตั้งวัสดุปิดผิว
7. งานก่อผนัง
ติดตั้งวงกบไม้ประตู-หน้าต่าง และงานระบบไฟฟ้า-ประปา
เมื่อมุงหลังคาเรียบร้อย
จะเข้าสู่ขั้นตอนการก่อผนังและหล่อเสาเอ็น – คานเอ็น
ในขั้นตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับบ้านแต่ละหลังว่าเลือกใช้ผนังบ้านแบบใด เช่น ผนังก่ออิฐ
หรือผนังเบา ซึ่งในช่วงนี้จะเดินท่องานระบบต่างๆ ที่ฝังในผนังไปด้วย
ทั้งระบบไฟฟ้าและประปา รวมถึงติดตั้งวงกบไม้ประตูหน้าต่างตามตำแหน่งที่ระบุตามแบบ
8. งานฉาบผนัง
และงานติดตั้งฝ้าเพดาน
ในงานฉาบผนังก่ออิฐ
จะต้องจับปุ่ม จับเซี้ยม
หรืออาจขึงลวดกรงไก่ เพื่อฉาบผนังให้เรียบสม่ำเสมอ
ส่วนผนังเบาจะต้องฉาบเก็บรอยต่อระหว่างแผ่นผนังให้เรียบเนียน
เตรียมพร้อมก่อนขั้นตอนการปิดผิว ในขั้นตอนนี้ต้องอาศัยความชำนาญของช่างเพื่องานที่ละเอียดเรียบร้อย
ผนังต้องได้ดิ่ง-ฉากทุกพื้นที่
9. งานวัสดุตกแต่งพื้นผิว ติดตั้งอุปกรณ์
ติดตั้งประตู-หน้าต่าง และงาน Build-In
เป็นขั้นตอนที่ต้องอาศัยความประณีตของช่างอย่างมาก
เพราะทำให้บ้านเนี้ยบสวยงาม ซึ่งในขั้นตอนนี้จะประกอบไปด้วย
9.1 วัสดุตกแต่งผนังและพื้น
9.2
ระบบแสงสว่างและติดตั้งดวงโคมการติดตั้งแสงสว่างและหลอดไฟ
9.3
ติดตั้งบานประตู หน้าต่างไม้ ชุดประตู-หน้าต่างไวนิล/อะลูมิเนียม
9.4 งาน Build-in
9.5 ติดตั้งวัสดุอุปกรณ์ สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ
และอุปกรณ์เครื่องครัว
9.6 สวนและทางเดินรอบบ้านอาจเริ่มทำในช่วงนี้
หรืออาจทำในช่วงที่บ้านสร้างเสร็จแล้วก็ได้
10.
ทำความสะอาดและตรวจความเรียบร้อยในขั้นตอนการเก็บงาน
ช่างจะเก็บรายละเอียดต่างๆ เช่น งานทาสี
ตรวจสอบงานระบบต่างๆ ซึ่งในช่วงนี้เจ้าของบ้านควรเข้ามาตรวจสอบด้วยตัวเอง
ซึ่งถ้าเจอข้อผิดพลาด ควรแจ้งให้ช่างแก้ไขให้เรียบร้อยก่อนจะส่งจะส่งมอบงาน
จากนั้นจะเริ่มทำความสะอาด (โดยมากจะจ้างบริษัททำความสะอาดหลังงานก่อสร้างโดยตรง)
แล้วเสร็จจนพร้อมส่งมอบงานให้เจ้าของบ้านขนย้ายเฟอร์นิเจอร์เข้าอยู่
การเรียงลำดับขั้นตอนตามที่กล่าวมาอาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือซ้อนทับกันได้ในแต่ละงาน
อาจมีเพิ่ม หรือแยกย่อยมากกว่า 10 ลำดับได้ขึ้นอยู่กับปลายปัจจัย เช่น
วัสดุที่เข้าหน้างาน ความถนัดของช่าง/ผู้รับเหมา ปัจจัยสภาพคล่องทางการเงิน
ปัญหาแรงงานช่าง และสภาพลมฟ้าอากาศที่ไม่อำนวย เป็นต้น
Tip: เจ้าของบ้านควรตรวจสอบสัญญาการรับประกันผลงานของทั้งผู้รับเหมา
และตัวผลิตภัณฑ์สินค้า รวมถึงการติดตั้งวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ตามที่ระบุในเอกสาร
เพื่อรับรองคุณภาพการก่อสร้าง และตัวสินค้าให้ได้ตามมาตรฐาน
ขอขอบคุณบทความจาก : http://www.scgbuildingmaterials.com/th/LivingIdea/NewBuild/%E2%80%8B10-Steps-of-House-Building.aspx
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น