ปัญหาของผนังทาสี และ พ่นสีผนังปูนเก่าให้ดี...ต้องทำอย่างไรบ้าง
ปัญหาของผนังทาสี และ พ่นสีผนังปูนเก่าให้ดี...ต้องทำอย่างไรบ้าง
ท่านเจ้าของบ้าน ที่สร้างบ้านใหม่เกิน 5 ปี ขึ้นไป หรือบ้านเก่า อาจพบปัญหาผนังทาสี เกิดปัญหาต่างๆ ทำให้ต้องตัดสินใจทำสีบ้านใหม่ หากทุกท่านทราบถึงสาเหตุของปัญหาและ มีการควบคุมผู้รับเหมาที่เราตัดสินใจเลือกให้เข้ามาทำสีใหม่ โดยทำสีใหม่ด้วยขั้นตอนการทำสีปูนเก่าที่ถูกต้อง ก็จะเป็นการยืดอายุ หรือลดปัญหาที่จะเกิดในอนาคตได้
ปัญหาที่พบในผนังทาสี
1.สีที่ผนังมีคราบขาวหรือคราบเหลือง (Efflorescence)
ปัญหานี้เกิดจากความชื้นในผนังปูน ได้นำพาเกลือในปูนออกมา ทำปฏิกริยากับสีจนเกิดเป็นคราบสีขาวหรือสีเหลือง
2.สีพองเป็นเม็ด (Rising damp)
ปัญหานี้จะพบการเกิดส่วนใหญ่เป็น ช่วงล่างของผนังหรือกำแพง ชั้นล่าง โดยเกิดเม็ดโป่งพองยาวตามแนวนอน สูงจากพื้นขึ้นมาประมาณ 0.50-1.00 เมตร โดยมีสาเหตุจากความชื้นจากใต้ติด หรือ เป็นจุดที่มีน้ำขังบ่อยๆ
3.สีเสื่อมลอก กะเทาะ ร่อนเป็นแผ่น
ปัญหานี้ส่วนใหญ่เกิดจากการเตรียมผิวปูนก่อนการทำสีไม่ถูกต้อง ผิวปูนอาจยังมีความชื้นสูงขณะที่ ทำสี จึงเกิดปัญหาฟิล์มสียึดติดกับผนังไม่เต็มประสิทธิภาพ
4.สีเสื้อมสภาพกลายเป็นฝุ่นชอร์ก
ปัญหานี้เกิดจาก สีที่ช่างเลือกใช้ ใส่ผงสีมากเกินไปรวมทั้งการใช้สี หรือ Resin ที่มีคุณภาพต่ำ หรือ การใช้สีผิดประเภท เช่น ใช้สีสำหรับทาภายในไปทาภายนอก
5.ผนังบ้านแตกร้าว หรือแตกลายงาน
ปัญหานี้หากตรวจดูเป็นการแตกลายงานของผนังฉาบปูนโดยไม่ได้เป็นร่องลึก ก็เกิดจากการฉาบปูนของช่างนั่นเอง แต่หากมีการแตกร้าวของผนังเป็นร่องลึกอาจเป็นปัญหาต่อเนื่องมาจากโครงสร้างของตัวบ้านเป็นหลัก
ผนังปูนเก่า
เช็คว่า สีเดิม เสื่อมหรือยัง?? เช็คอย่างไร ... ก็ใช้ตาดู และใช้มือลูบดู..1.สีที่ผนังมีคราบขาวหรือคราบเหลือง (Efflorescence)
ปัญหานี้เกิดจากความชื้นในผนังปูน ได้นำพาเกลือในปูนออกมา ทำปฏิกริยากับสีจนเกิดเป็นคราบสีขาวหรือสีเหลือง
2.สีพองเป็นเม็ด (Rising damp)
ปัญหานี้จะพบการเกิดส่วนใหญ่เป็น ช่วงล่างของผนังหรือกำแพง ชั้นล่าง โดยเกิดเม็ดโป่งพองยาวตามแนวนอน สูงจากพื้นขึ้นมาประมาณ 0.50-1.00 เมตร โดยมีสาเหตุจากความชื้นจากใต้ติด หรือ เป็นจุดที่มีน้ำขังบ่อยๆ
3.สีเสื่อมลอก กะเทาะ ร่อนเป็นแผ่น
ปัญหานี้ส่วนใหญ่เกิดจากการเตรียมผิวปูนก่อนการทำสีไม่ถูกต้อง ผิวปูนอาจยังมีความชื้นสูงขณะที่ ทำสี จึงเกิดปัญหาฟิล์มสียึดติดกับผนังไม่เต็มประสิทธิภาพ
4.สีเสื้อมสภาพกลายเป็นฝุ่นชอร์ก
ปัญหานี้เกิดจาก สีที่ช่างเลือกใช้ ใส่ผงสีมากเกินไปรวมทั้งการใช้สี หรือ Resin ที่มีคุณภาพต่ำ หรือ การใช้สีผิดประเภท เช่น ใช้สีสำหรับทาภายในไปทาภายนอก
5.ผนังบ้านแตกร้าว หรือแตกลายงาน
ปัญหานี้หากตรวจดูเป็นการแตกลายงานของผนังฉาบปูนโดยไม่ได้เป็นร่องลึก ก็เกิดจากการฉาบปูนของช่างนั่นเอง แต่หากมีการแตกร้าวของผนังเป็นร่องลึกอาจเป็นปัญหาต่อเนื่องมาจากโครงสร้างของตัวบ้านเป็นหลัก
ผนังปูนเก่า
หากพบว่า..“สีหลุดร่อน” ต้องเตรียมผิวใหม่ โดย...
1.ล้างทำความสะอาดพื้นผิว
2.ใช้เกรียงขัดผิวที่หลุดร่อนออกให้หมด
3.ขัดสีเดิมที่เสื่อม ห้ามใช้แปลงลวด
4.เช็ดฝุ่นด้วยผ้าสะอาดให้แห้ง
5.ซ่อมโป๊วผิวที่แตกร้าว ปล่อยให้แห้ง
6.ขัดพื้นผิวให้เรียบเนียนก่อนพ่นสี 1-2 วัน
เช็คว่า สีเดิม ขึ้นรา หรือยัง?? เช็คอย่างไร ... เห็นแบบนี้บนผนัง ..หากพบว่า..“ผนังขึ้นรา” ต้องเตรียมผิวใหม่ โดย...
ทาน้ำยาฆ่าเชื้อราทิ้งไว้ 12 ชม.
เช็คว่า ผนังแตกลายงา...หรือไม่ ?? เช็คอย่างไร ... เห็นแบบนี้บนผนัง ..
หากพบว่า..“ผนังแตกลายงา” ต้องเตรียมผิวใหม่ โดย...
1.ซ่อมโป๊วผิวที่แตกร้าว ปล่อยให้แห้ง 2. ขัดพื้นผิวให้เรียบเนียนก่อนพ่นสี 1-2 วัน
1.ซ่อมโป๊วผิวที่แตกร้าว ปล่อยให้แห้ง 2. ขัดพื้นผิวให้เรียบเนียนก่อนพ่นสี 1-2 วัน
เช็คว่า ผนังเดิม ผิวไม่เรียบ ขรุขระ หรือ?? เช็คอย่างไร ... เห็นแบบนี้บนผนัง ..
หากพบว่า..“ผนังผิวไม่เรียบ ขรุขระ” ต้องเตรียมผิวใหม่ โดย
1.แต่งผิวด้วยปูนฉาบชนิดละเอียด
ทำทุกอย่างเรียบร้อย...หมดแล้ว ... ต่อไปก็ พ่นน้ำยารองพื้นเก่า 1 ครั้ง โดยการใช้เครื่องพ่นสี ซึ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ท่านได้เป็นอย่างดี ซึ่งการใช้เครื่องพ่นสีนี้ทำให้ท่านสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้ท่านสามารถลดการสิ้นเปลืองน้ำยารองพื้นได้ เมื่อท่านใช้เครื่องพ่นสีแล้วท่านจะสามารถส่งงานทันเวลาได้ทันตามกำหนด และเครื่องพ่นสียังทำให้ท่านได้ผลกำไรที่ดีอีกด้วย
หลังจากท่านพ่นน้ำยารองพื้นเก่าแล้ว ท่านสามารถใช้เครื่องพ่นสีพ่น พ่นสีให้ชิ้นงานของท่านดูขึ้นรูปสวยงามตามต้องการ
หลังจากท่านพ่นน้ำยารองพื้นเก่าแล้ว ท่านสามารถใช้เครื่องพ่นสีพ่น พ่นสีให้ชิ้นงานของท่านดูขึ้นรูปสวยงามตามต้องการ
(ขอขอบคุณ ภาพสวยๆ และข้อมูล จาก : สี TOA และ กลุ่มผู้รับเหมาผู้ซื้อสัตย์)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น